ห้องน้ำ และการ ตกแต่ง

 ห้องน้ำ และการ ตกแต่ง

      ห้องน้ำและการตกแต่ง เป็นหนึ่งในห้องที่คุณ และคนในครอบครัว แบบบ้านชั้นเดียวต้องใช้เป็นประจำทุกวัน และเป็นห้องที่ต้องการความเป็นส่วนตัว มากเป็นพิเศษ เพราะไม่ว่าคุณจะอาบน้ำ หรือขับถ่าย คุณย่อมต้องการความเป็นส่วนตัว นอกจากนี้ บางคนยังใช้ห้องน้ำ ในการแต่งหน้า โกนหนวด บ้านสวย ไปจนถึงซักผ้า และอ่านหนังสือ การออกแบบห้องน้ำให้มีความสวยงาม และให้ความสุขแก่ผู้ใช้จึงเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่ง การตกแต่งห้องน้ำ ต้องพิจารณา จากเงื่อนไขหลายประการ เช่นความจำเป็นของสมาชิก ในบ้าน สุขอนามัยค่าใช้จ่ายเป็นต้น การออกแบบห้องน้ำ
      ห้องน้ำและการตกแต่ง แบบบ้านโมเดิร์นควรออกแบบให้มีการถ่ายเท อากาศได้อย่างสะดวก โดยอาจเปิดหน้าต่าง หรือติดพัดลมระบายอากาศ พื้นที่ควรแบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือส่วนเปียกจะใช้ในการอาบน้ำ อาจจะเป็นอ่าง หรือฝักบัวก็ได้ควรมีการป้องกัน ไม่ให้น้ำกระเด็นออกมา ส่วนแห้งก็คือส่วนอ่างล้างหน้า โถปัสสาวะชัก โครกส่วนนี้ สามารถใช้พรมแผ่นมาวางได้แต่การใช้งานต้องระวัง
        นอกจากนี้ แบบบ้านสวยๆยังต้องมีเฟอร์นิเจอร์ส่วนประกอบต่างๆ อีกเช่นกระจกส่องหน้า ที่ใส่ทิชชู ที่ใส่สบู่ ที่แขวนผ้าเช็ดหน้า เป็นต้น ซึ่งตำแหน่งของเฟอร์นิเจอร์ เหล่านี้ควรจัดวาง โดยคำนึงถึงความสะดวก ในการใช้งานเป็นหลัก
ข้อมูล : novabizz

รั้วบ้าน รั้วต้นไม้

รั้วบ้าน รั้วต้นไม้

      รั้วบ้าน รั้วต้นไม้ นั้นมีประโยชน์ ใช้แบ่งกั้นอาณาเขต-ป้องกันสายตาจาก-แต่ในเมืองใหญ่ที่เต็มไปด้วยตึก ดูแข็ง ๆ ขาดชีวิตชีวา -เรามาลองสร้างแนวรั้วให้ดูมีชีวิตชีวาด้วยต้นไม้กันดีไหม-รั้วไม้พุ่มสูงยังมีประโยชน์ เพิ่มอีกปราการหนึ่ง-นั่นคือเป็นแนวปราการป้องกันลม-ป้องกันเสียงได้ด้วย
   
       สิ่งมีชีวิตที่เรียกว่า “พืช” มีอยู่หลากพันธุ์ การเลือกว่าจะเอาชนิดใดมาลง ทำหน้าที่แนวหน้าของบ้าน ทำหน้าที่เป็นรั้วบ้าน ก็ต้องพิจารณากันหน่อย หากต้องการแนวรั้วสูง ๆ ขอแนะนำให้ปลูกไม้พุ่ม ที่มีใบเขียวตลอดปี เช่น เข็ม กระดังงา แต่ถ้าต้องการแนวรั้วเตี้ย ๆ แบ่งเขตแดน ลองปลูกพวกดาวเรือง หรือต้อยติ่งก็มีประโยชน์ไม่หยอก พอเลือกได้แล้ว ก็มาดูวิธีปลูกบ้าง เริ่มตั้งแต่การเตรียมดินล่วงหน้า ประมาณ 2 สัปดาห์ก่อนปลูก กำจัดวัชพืชให้หมดไป แล้วก็บำรุงดินด้วยปุ๋ย ระยะเวลาที่รอบ้านสวยพร้อมก็สามารถกำหนดแนวรั้ว ได้ด้วยการขึงเชือกกับหลัก 2 หลัก แล้วก็นำเอาไม้มาปักเป็นระยะ ๆ ตลอดแนวสำหรับปลูก แต่ละต้นเว้นระยะห่างสัก 30-46 เซนติเมตร อาจจะปลูกเป็นแถวคู่ถ้าหากต้องการให้พุ่มหนาแน่น โดยปลูกแถวที่ 2 เหลื่อมล้ำกับแถวแรก
       2สัปดาห์ผ่านไปไวเหมือนโกหก แบบบ้านชั้นเดียววันนี้คุณต้องลงแรงเพิ่มอีกด้วยการขุดหลุม ขุดลึกสักประมาณระดับโคนต้น ส่วนความกว้างกะให้พอรองรับรากของไม้พุ่มได้ ดินที่ก้นหลุมทุบให้แตกละเอียดเพื่อสุขภาพของต้นไม้ที่จะลง ดินที่ขุดขึ้นมานำไปผสมกับปุ๋ยอินทรีย์หรือปุ๋ยคอกให้เข้ากันในอัตราส่วน 2:1 *เอาล่ะ ทีนี้ได้เวลาส่งต้นไม้ทั้งมวลคืนกลับสู่แม่พระธรณีกัน ก่อนทำการส่งตัวให้รดน้ำต้นไม้ให้ชุ่มฉ่ำอำลาบ้านเก่า เสียก่อนจึงค่อยนำลงปลูก ในหลุมที่เตรียมพร้อมไว้แล้ว ขั้นนี้ให้ระมัดระวัง จับเฉพาะบริเวณโคนต้นเท่านั้น แล้วจึงนำเอาดินที่ผสมไว้กลบ แล้วกดให้แน่น รดน้ำให้ทั่ว มัดไม้พุ่มไว้กับหลัก จนกว่าจะแข็งแรงดี
      หลังวันงานหนักผ่านไป แบบบ้านโมเดิร์นแม้รั้วบ้านต้นไม้เหล่านั้นจะไปดีมีสุขแล้ว คุณก็ยังต้องเฝ้าตามทะนุถนอมห่วงใยต่อไป ด้วยการหมั่นตัดแต่งซึ่งสามารถทำได้ทันทีถ้าต้องการ ยกเว้นไว้ให้แก่พวกสนหรือพวกที่เติบโตช้าหน่อยนะ ไม้พุ่มที่โตเร็วให้ตัดแต่งออกประมาณครึ่งหนึ่ง ไม้พุ่มอื่น ๆ ให้ตัดส่วนบนออกประมาณ 1 ใน 3 และตัดด้านข้างออกให้มากกว่า ต้นสน ต้นไม้ที่โตช้า และเขียวทั้งปีให้ตัดแต่งเฉพาะด้านข้างเท่านั้น ไม่ต้องไปตัดแต่งด้านบน
       เวลาผันผ่านไปเรื่อย ๆ แบบบ้านสวยๆรั้วบ้าน มีชีวิตของคุณก็เริ่มแข็งแรง และเขียวขจีแลดูงามตา ตอนนี้คุณก็สามารถตัดแต่งได้ตามต้องการ อาจจะเว้นไม้พุ่มบางชนิดที่มีระยะเวลากำหนดในการตัดแต่ง เคล็ดลับก็คือตัดแต่งให้ส่วนล่างดูบางตากว่าส่วนบน เอาไว้ก่อนแค่นี้รั้วบ้านก็มีชีวิต มาสร้างชีวิตชีวาให้แก่บ้านของคุณแล้ว
เรียบเรียง : bco
ข้อมูลจาก : thaihomemaster

ห้องน้ำมีกลิ่นเหม็น

ห้องน้ำ

   
      กลิ่นเหม็นภายในห้องน้ำ ถือเป็นปัญหากวนใจ ใครหลายๆ ท่านใช่ไหม โดยเฉพาะผู้ที่อาศัยอยู่ในคอนโด เนื่องจากมีอากาศถ่ายเทน้อย ซึ่งบ้านเหม็นเหล่านี้มาจากไหน สาเหตุหลักๆ  นอกจากจะเป็นตัวการแพร่กระจายกลิ่นตัวสำคัญแล้ว ยังเป็นจุดที่แก้ปัญหาที่ยากอีกด้วย มาดูวิธีการกำจัดกลิ่นเหม็นจากห้องน้ำกันค่ะ
 กำจัดต้นตอ วิธีในการกำจัดกลิ่นที่ดี แบบบ้านชั้นเดียวยั่งยืนที่สุด คือการกำจัดจากต้นเหตุ แล้วเราจะรู้ได้อย่างไร

1. พิสูจน์กลิ่น - แน่นอนว่าเราย่อมคุ้นเคยกับกลิ่น ห้องเราเป็นอย่างดี หากมีสิ่งแปลกปลอม หรือกลิ่นไม่พึงประสงค์บางอย่างรุกราน เราก็ย่อมรู้ดีอยู่แล้ว ข้อสำคัญคือไม่ควรใช้สเปรย์ดับกลิ่น ทำลายหลักฐาน ขณะที่มีกลิ่นเหม็น เพราะจะทำให้เราไม่รู้ว่าต้นเหตุ คืออะไรกันแน่
2. ผู้ต้องสงสัย - เพ่งเล็งไปในจุดที่น่าจะเป็นต้นกำเนิดกลิ่น ส่วนใหญ่มักเกิดจาก ห้องน้ำ, ถังขยะ, ตู้เย็น, ตู้เสื้อผ้า, ตู้รองเท้า, มุมอับต่างๆ  
3. กำจัดจุดอ่อน - หากไม่มั่นใจนักว่าสาเหตุเกิดจากจุดไหนกันแน่ ก็จัดการทุกอย่างไปเลย เริ่มจากนำขยะไปทิ้ง เคลียของในตู้เย็น หาวัสดุดูดซับกลิ่นมาวางตามตู้ต่างๆ (ผงฟู, ถ่าน)
4. เคลียร์พื้นที่ - เมื่อมั่นใจว่ากำจัดทุกจุดแล้ว ขั้นตอนต่อไปคือปล่อยให้อากาศเข้ามาถ่ายเท เปิดหน้าต่างกว้างๆ หรือใช้เครื่องกรองอากาศ ช่วยให้กลิ่นจางหายเร็วขึ้น 

 ห้องน้ำเหม็น จะแก้ยังไง วิธีห้องน้ำเหม็น จะแก้ยังไงการข้างต้น แบบบ้านโมเดิร์นอาจทำได้กับพื้นที่อื่นๆ แต่ไม่ใช่กับห้องน้ำ เมื่อเราตรวจพบว่ากลิ่นเหม็น ไม่ได้มาจากจุดอื่นนอกจาก ห้องสุขาที่ช่วยเราบรรเทาทุกอยู่ทุกวัน วิธีแก้ปัญหาอาจยากหน่อย แต่ไม่เกินกว่ากำลังแน่นอน

1. ท่อน้ำทิ้ง เป็นจุดที่มีปัญหากลิ่นเหม็นอยู่บ่อยครั้ง โดยปกติแล้วควรมีการติดตั้งตะแกรงบ้านสวย เพื่อป้องกันไม่ให้กลิ่นเหม็นย้อนขึ้นมา ให้ดูสภาพความสมบูรณ์และความสะอาด
2. อ่างล้างหน้า เป็นจุดที่ไม่ค่อยเกิดปัญหา สำหรับห้องหรือบ้านใหม่ แต่สำหรับบ้านที่มีการใช้งานอยู่เป็นประจำทุกๆ วันก็เกิดปัญหาได้เช่นกัน ให้ตรวจสอบอุปกรณ์ดักกลิ่นใต้อ่าง หมั่นทำความสะอาดอยู่บ่อยครั้ง
3. โถส้วม ให้เช็ครอยรั่วหรือยาแนว ว่ามีการสึกหรอหรือไม่ เพราะกลิ่นสามารถย้อนขึ้นมาได้ ควรหมั่นทำความสะอาด และใช้น้ำยาล้างเป็นประจำ หรืออีกวิธีหนึ่งคือใช้จุลินทรีย์ช่วยกำจัดกลิ่น
4. ระบายอากาศ ข้อนี้สำคัญอย่างมาก ให้ดูว่าห้องน้ำมีช่องระบายอากาศ ที่เพียงพอ หรือไม่ โดยธรรมชาติของอากาศ คืออากาศใหม่ไหลเวียนเข้ามา อากาศเก่าจะลอยออกไป หากระบายอากาศไม่ดี แน่นอนว่ากลิ่นในห้องน้ำ จะไหลเข้ามาในห้องอื่นๆ ของตัวแบบบ้านสวยๆแน่นอน 

 CR: 3M

เช่า"บ้าน"ต้องมีสัญญา

สัญญา แบบบ้าน 5 ข้อ ผู้เช่าประสบการณ์สูง มีอยู่เยอะบางคน ทำของเสียหาย แทบทั้งหมด บางคนเบี้ยวค่าเช่า บางคนหนักกว่า ไม่จ่ายแต่ไม่ออก เราถึงต้องมี”สัญญาเช่าที่รัดกุม”

1. ควรเซ็นสัญญาเช่า แบบบ้านชั้นเดียว อันนี้เบื้องต้นเลยครับ บางคนคิดว่าเพื่อนกัน คนกันเองไม่ต้องเซ็นก็ได้ มีปัญหากันมาเยอะละครับ บางทีถกเถียงกันเรื่องเล็ก ๆ จนลามเป็นเรื่องใหญ่ อย่าเอามิตรภาพมาเสี่ยงเลยครับ “เซ็นเถอะ” สบายใจทั้งสองฝ่าย สำหรับบ้านเช่า การตกลงกันปากเปล่า ไม่มีผลอะไรทางกฎหมายนะครับ เราถึงควรจะต้องระบุให้ชัด ยังไงเรียกว่าชัด? มาดูกันเลยครับ เรื่องพื้นฐานอย่ามองข้าม ในสัญญา ควรระบุชัดเจนครับ ค่าเช่าเท่าไหร่ จ่ายทุกเดือนหรือยังไง ค่าส่วนกลาง ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าอินเตอร์เน็ต ค่าภาษี ใครเป็นคนจ่าย (ภาษีของผู้ให้เช่า ก็ระบุให้ผู้เช่าจ่ายได้ ฟังดูตลกนะครับ แต่ทำได้) ภาษีมักถูกมองข้าม บางครั้งเจ้าของบ้านประสบการณ์สูง แอบใส่ไว้ในสัญญา ให้ผู้เช่าจ่ายโดยไม่อธิบาย แล้วให้ผู้เช่าเซ็นแบบงงๆ เจ็บกันมาเยอะ ต้องระวังครับ เรื่องพื้นฐานอีกเรื่องที่เจอกันบ่อยคือ สูบบุหรี่ เลี้ยงสัตว์ และต่อเติมห้อง ระบุให้ชัดครับ ว่าทำได้หรือไม่ ถ้าทำได้มีค่าใช้จ่ายเพิ่ม หรือต้องแจ้งเจ้าของก่อนรึเปล่า 
2. ผู้เช่า แบบบ้านสวยๆ ต้องไม่ให้เช่าช่วงต่อ เรื่องนี้คนพลาดกันบ่อยมาก โดยปกติคงไม่มีใครคิดว่าจะมีปัญหา เพราะเราก็แค่ให้คนเช่าบ้าน ไม่น่ายุ่งยากอะไร แต่จริงๆ มีปัญหาครับ คุณควรปิดความเสี่ยงตรงนี้ โดยระบุลงไปในสัญญา เลยว่าไม่ให้เอาไปใช้เช่าช่วงต่อ ไม่งั้นมีโอกาสที่ผู้เช่า จะไปให้คนอื่นเช่าต่อ เปิดเป็นโรงแรมย่อมๆ คุณจะไม่มีโอกาสคัดคน ที่มาอยู่ห้องคุณเลย มีปัญหาอื่นตามมาได้ง่ายๆ เลย  ห้ามทำผิดกฎหมาย อันนี้คนก็พลาดกันบ่อย มันฟังดูเป็น common sense เนอะ “ห้ามทำผิดกฏหมาย” ใครๆ ก็ต้องห้ามทำอยู่แล้ว แต่คุณควรจะระบุลงในสัญญา ให้ชัดเจนเลยว่า ห้ามทำผิดกฏหมาย และถ้าเกิดอะไรขึ้นผู้เช่า จะเป็นผู้รับผิดชอบ โดยผู้ให้เช่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องรับรู้ สำคัญนะครับ คุณลองคิดเล่นๆ ถ้าคนเช่าห้องคุณค้ายาเสพติด เอาห้องคุณเป็นแหล่งเก็บของ มีอะไรขึ้นมาคุณมีโอกาสติดร่างแหได้ง่ายๆ กลายเป็นพ่อค้าโดยไม่รู้ตัว 
3. ระบุระยะเวลา แบบบ้านโมเดิร์น และวิธีการต่อสัญญาสัญญา เช่าบ้านควรมีการระบุระยะเวลาที่ชัดเจนนะครับ กี่เดือนหรือกี่ปี ถ้าระยะเวลาเกิน 3 ปี ต้องจดทะเบียนการเช่า ที่กรมที่ดินนะครับ ไม่งั้นหลัง 3 ปี สัญญาเช่าจะกลายเป็นกระดาษทิชชู่ ถ้าอยากบอกเลิกสัญญาก่อน ต้องบอกล่วงหน้ากี่เดือน และจะยึดเงินประกันหรือคืน วิธีการต่อสัญญาก็สำคัญครับไม่ใช่แค่ระยะเวลาเราสามารถระบุได้ว่าถ้าหมดเวลาถือว่าสัญญาจบโดยอัตโนมัติหรือระบุว่าเป็นการต่ออัตโนมัติถ้าไม่มีการแจ้งยกเลิกจากฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งล่วงหน้าอะไรก็ว่าไปในฐานะนักลงทุนผมชอบเลือกแบบต่ออัตโนมัติครับเพราะหลายๆครั้งผู้เช่าก็ขี้เกียจคิดขี้เกียจไปดูที่ใหม่งานยุ่งหรืออะไรก็ตามเค้าจะปล่อยเลยตามเลยเช่าต่อทันทีเราก็ไม่ต้องเสียเวลาหาผู้เช่าใหม่เงินประกันอันนี้นักลงทุนบางคนจะคิดว่าหยวนๆได้ไม่จำเป็นต้องรัดกุมมากแสดงความป๋าให้ผู้เช่ารักเราไม่ต้องมีหรือประกันครึ่งเดือนก็น่าจะพอ“อย่านะครับ”ค่าตกแต่งห้องบางครั้งแพงกว่าค่าเช่าทั้งปีการให้คนอื่นมาอยู่ในห้องนั้นก็มีความเสี่ยงอยู่แล้วการมีเงินประกันคือการจัดการความเสี่ยงรูปแบบหนึ่งการลงทุนโดยไม่มีการจัดการความเสี่ยงเหมือนปิดตาเดินอยู่บนยอดเขาอย่างน้อยที่สุดเราควรมีเงินประกันซัก2 เดือนเป็นการscreenผู้เช่าไปในตัวด้วยเพราะถ้าใครไม่มีเงินสดพอจะจ่ายค่าประกัน2เดือน“มีโอกาสที่เค้าจะช็อตเงินกลางทางและจ่ายค่าเช่าเราไม่ได้”  
4. ลิสต์รายการพร้อมรูปอย่างที่บอกครับค่าตกแต่งมันแพงเราควรมีลิสของทุกอย่างที่เรามีในห้องทำลิสระบุแนบท้ายในสัญญาพร้อมรูปถ่ายสำหรับของที่มีมูลค่า ไม่ใช่แค่เฟอร์นิเจอร์ และเครื่องใช้ไฟฟ้านะครับตัวห้องผนังเพดานกระจกฝ้าส่วนประกอบสำคัญของห้องต้องมีครบระบุมูลค่าของแต่ละชิ้นให้ชัดเจนโดยมากผมจะระบุราคาไปในทางสูงแต่ไม่เว่อเพื่อให้ห้องดูมีมูลค่าผู้เช่าจะภูมิใจและระวังของในห้องของเสียหายใครจัดการเมื่อมีคนมาอยู่ของเสียหายเป็นเรื่องที่ต้องเกิดขึ้นแน่นอนใครซ่อม?เป็นหนึ่งในปัญหาที่ทะเลาะกันบ่อยที่สุดจนนำไปถึงการเลิกเช่าหรือเรื่องอะไรที่ใหญ่กว่านั้นในที่สุดถ้าคุณไม่ได้ระบุในสัญญาว่าใครจ่าย“เจ้าของห้องต้องซ่อมนะครับ”แม้ว่าคนเช่าจะเป็นคนทำพังก็ตามส่วนตัวผมมักจะชอบระบุให้ผู้เช่าเป็นคนจ่าย(เพราะเค้าจะรักษาของมากกว่า)ระบุไปในสัญญาก่อนได้ครับแต่พอถึงชีวิตจริงเราอาจมีอะลุ่มอล่วยซ่อมให้เพื่อเป็นการซื้อใจลูกค้าได้
5. ค่าปรับต้องมีเอ็นดูเขาเอ็นเราขาดคำนี้จริงเสมอในสัญญาต้องระบุวันที่ที่ต้องจ่ายค่าเช่าชัดเจนพร้อมค่าปรับถ้าจ่ายช้าวันละ500บาทหรืออะไรก็ว่าไปไม่ใช่แค่ค่าปรับนะครับอย่าดูถูกความCreativeของปัญหาถ้าเราระบุแค่ค่าปรับวันละ500จะเจอผู้เช่าบอกว่า“ได้ ปรับได้ ปรับไป นับไปนะเอาให้ถึงล้านแต่ตูไม่จ่ายและไม่ออกด้วย”ทำไงดีหละ?ในสัญญาควรระบุไว้ครับว่าถ้าผู้เช่าไม่จ่ายค่าเช่าเป็นเวลากี่เดือนเจ้าของมีสิทธิบอกเลิกสัญญาได้แต่ชีวิตจริง มันอาจ Creative กว่านั้น ต่อให้เราบอกเลิกสัญญาผู้เช่าก็บอกว่า”ได้เลิกสัญญาดีเลยไม่ต้องจ่ายค่าเช่าแต่อยู่ต่อนะ”บอกเลิกสัญญาแต่ผู้เช่าไม่ออกทำไง?

การเลือก ประตู ตอบโจทย์ใช้งาน

       ประตู ห้องเป็นสิ่งหนึ่งในการตกแต่ง บ่งบอกถึงไลฟ์สไตล์การตกแต่งห้องนั้นๆ นอกจากนี้ยังต้องตอบโจทย์การใช้งานอีกด้วย วันนี้เราจะมานำเสนอไอเดียการเลือกประตูห้องให้ตอบโจทย์การใช้งานกับ 1.ประตูไม้ วัสดุธรรมชาติ ได้แก่ ไม้สัก ไม้เต็ง ไม้แดง แบบบ้านสวยๆ ซึ่งอายุการใช้งานหรือความทนทานขึ้นอยู่กับคุณภาพของไม้ที่เลือกใช้ ซึ่งไม้คุณภาพดีที่มีความแข็งแรงทนทานต่อสภาพดินฟ้าอากาศ แต่หากเลือกใช้ไม้คุณภาพไม่ดีอาจจะเกิดปัญหาพองตัว บิด โก่ง งอ หรือแตกหัก ไม้แบ่งเป็น 2 ประเภทหลัก ได้แก่  

           1.1ไม้เนื้อแข็งและไม้เนื้ออ่อน ไม้เนื้อแข็งส่วนใหญ่จะมีความแข็งแรงทนทานและทนต่อสภาพแวดล้อม ข้อเสียเรื่องการบิดตัวของไม้เวลาเกิดความร้อนและความชื้น  

           1.2ไม้เนื้ออ่อนจะมีความแข็งแรงทนทาน น้อยกว่าจึงนิยมใช้สำหรับงาน ตกแต่งภายใน ได้แก่ ไม้สัก ไม้ยางพารา ไม้จำปา เป็นต้น การเลือกใช้ประตูไม้ควรระมัดระวังปัญหาปลวก ซึ่งอาจจะป้องกันด้วยการอัดน้ำยากันปลวก หรือเราอาจจะเลือกประตูไม้สังเคราะห์เป็นไม้เทียมที่ผสมกันระหว่างเยื่อไม้และพลาสติก ทำให้มีคุณสมบัติทนต่อสภาพอากาศ ทนปลวก ไม่บวมน้ำ ไม่บิดงอ และทนต่อเชื้อรา 

2.ประตู แบบบ้านโมเดิร์น อลูมิเนียม วัสดุที่ได้รับความนิยม เนื่องจากมีหลายระดับราคา ให้เลือกตามคุณภาพ หรือเกรดของอลูมิเนียม ด้วยคุณสมบัติทนแดด ทนฝน และไม่เป็นสนิม รวมถึงสีสันให้เลือกมากมาย ทั้งยังสั่งทำได้ในรูปแบบ หรือขนาดตามที่ต้องการ โดยสามารถดูแลรักษา หรือทำความสะอาดได้เพียงแค่ใช้ผ้าชุบน้ำเช็ด ทำความสะอาด

 3.ประตู ยูพีวีซี แบบบ้านชั้นเดียว วัสดุที่ป้องกันเสียงดัง หรือเสียงรบกวนจากภายนอก เราสามารถเลือก ใช้ประตูยูพีวีซี ซึ่งกำลังได้รับความนิยม มากขึ้น เนื่องจากสามารถ เป็นฉนวนกันความร้อน หรือความเย็นได้เป็นอย่างดี ช่วยประหยัดค่าไฟฟ้า ป้องกันฝุ่น และสามารถออกแบบ หรือผลิตได้หลากหลาย รูปแบบตามต้องการ ทั้งยังสามารถ ทำความสะอาดได้ง่าย เพียงแค่ใช้ผ้าชุบน้ำเช็ดโดยไม่จำเป็นต้องใช้สารเคมีทำความสะอาด
4.ประตู พีวีซี วัสดุที่ได้รับความนิยม ใช้เป็นประตูห้องน้ำ แทนวัสดุไม้ เพราะมีให้เลือกหลากหลาย สี ราคาถูก ทนทานต่อการ ผุกร่อน กันน้ำ ความชื้น เชื้อรา และปลอดภัยจากปลวก หรือแมลงต่างๆ น้ำหนักเบา และทำความสะอาด ได้ง่าย

 Cr:ddproperty

คิดสักนิดก่อน ซื้อบ้าน

      ซื้อบ้าน คิดสักนิด ในทุกวันนี้ใครๆก็มีความต้องการซื้อบ้าน ซึ่งการซื้อบ้านแต่ละหลังนั้น มักจะมีหลากหลายปัจจัยประกอบ แต่อย่างไรก็ตามการซื้อบ้านเราควรมีหลักการ เพื่อที่เราจะไม่ต้องมาปวดหัวในภายหลังกับปัญหาเกิดขึ้นในวันข้างหน้า เพราะแน่นอนว่ามันต้องมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นมาอย่างแน่นอน

1. การที่เราจะซื้อ แบบบ้านชั้นเดียว มาสักหลังหนึ่งนั้น สิ่งที่เราต้องคิดนั้นคือการซื้อบ้านที่เป็นแบบว่าต้องคุ้มค่ากับเงินที่เราซื้อไป อีกทั้ง ทำเล ที่เลือกนั้นต้องเป็นทำเลที่สวยงาม ซึ่งเดี่ยวนี้มีหลากหลายทำเลที่เราสามารถเลือกซื้อได้ เช่น แถวรังสิต ไม่ใช่แค่ตัวบ้านที่มีราคาแพงแต่ไม่มีทัศนยภาพเพื่ออาศัยอย่างอย่างแน่นอน ฉะนั้นในการซื้อบ้านนั้นสิ่งที่เราต้องคิดในอันดับแรกๆนั้นคือ
2. งบประมาณในการซื้อ แบบบ้านโมเดิร์น ว่าเราควรมีงบประมาณในการซื้อบ้านอย่างไร มีงบประมาณที่เพียงพอหรือไหมกับกำลังที่เราต้องการซื้อบ้าน เพราะว่าจะได้ไม่เกิดปัญหาในภายหลัง  
3. ทำเลที่ตั้ง ในการซื้อบ้านแต่ละครั้งนั้น ทำเลที่ตั้งเป้นทำเลที่สามารถเลือกให้เราอยู่ในบ้านได้ เพราะว่าหาทำเลที่ตั้งของบ้านนั้นมันเป็นสิ่งสำคัญของวงการฮ่วงจุยก็ว่าได้ การเลือกทำเลที่ตั้งจึ่งเป็นเรื่องที่สำคัญอย่างยิ่งอีกประการหนึ่งที่เราไม่ควรที่จะละเลยในการซื้อบ้าน  
4. สภาพการจราจร แบบบ้านสวยๆ ที่การเลือกที่อยู่นั้น การจราจรถือว่าเป็นอีกส่วนหนึ่งที่เราต้องดูเช่นกัน เพราะว่าการเลือกบ้านที่ไม่แค่เพียงแค่ว่าเราต้องเลือกบ้านที่มีแค่ หมู่บ้านแถวรังสิตเท่านั้นแต่การเลือกบ้านนั้นสิ่งที่สำคัญอีกประการหนึ่งนั้นคือการเลือกบนพื้นที่มีการจราจรไม่หนาแน่นมากหนัก ซึ่งการเลือกบ้านสิ่งที่สำคัญนั้นคือการเลือกบ้านในย่านรังสิต ก็ถือได้ว่าเป็นพื้นที่ที่สามารเลือกบ้านเลือกซื้อบ้านได้อย่างไม่ต้องกังวลใจ อาทิเช่น ทาวน์โฮมรังสิต หรือหมู่บ้าน เราก็สามารถที่เลือกมาเป็นแบบบ้านได้ 

 ฉะนั้นในการเลือกบ้าน มาเป็นทีอยู่อาศัยนั้นสิ่งสำคัญนั้น ต้องมีงบประมาณ ที่เพียงพอ กลับการซื้อบ้าน เพราะจะไม่เกิดปัญหา ในภายหลังได้

ตกแต่งภายใน 5ห้อง นั่งเล่น พื้นที่เล็กๆ

      ไอเดีย ตกแต่งภายใน 5ห้องนั่งเล่น ในพื้นที่เล็กๆ จัดอย่างไรให้สวย ห้องนั่งเล่น เป็นดังที่พักผ่อนหย่อนใจ ของทุกคนในบ้าน แบบบ้านสวยๆ เป็นห้องสำหรับผ่อนหย่อนคลาย หรือพักเหนื่อยล่า หลังจากการทำงานหนัก มาตลอด แต่บางครั้งพื้นที่ ที่มีก็ไม่เอื้ออำนวย เช่น คอนโด หรือทาวน์เฮ้าส์ ก็มีพื้นจำกัด ทำให้ห้องนั่งเล่น เหลือพื้นที่เพียงเล็กน้อยตามไปด้วย ดังนั้นเรามาดูดีกว่า ว่ามีไอเดีย อะไรบ่างที่สามารถ นำมาใช้ได้บ่าง
  
     1.ห้องนั่งเล่น  ตกแต่งภายใน สีขาวสบายตา แบบบ้านโมเดิร์น ห้องนั่งเล่น รูปแบบนี้เหมาะสำหรับ คอนโด หรือทาวน์เฮ้าส์ ที่มีขนาดเล็ก โดยเราสามารถ ใช้พื้นที่แคบๆ หน้ากว้างประมาณ 5 เมตรเพื่อวางโซฟา โต๊ะเล็ก เสริมด้วยโคมไฟทั้งสองมุม ประดับด้วยภาพวาดอาร์ตๆ บนผนัง ถ้าผนังติดหน้าต่างด้วยก็จะดีเพราะเราสามารถเพิ่มสีสันได้ด้วยผ้าม่านสีสันสดใส และได้วิวจากภายนอก ก็จะเพิ่มให้ห้องนั่งเล่นดูสดใสมีชีวิตชีวามากขึ้น
   
2.ห้องนั่งเล่น ตกแต่งภายในเทาสีเข้ม หนักแน่นในแบบผู้ชาย สำหรับใครที่ชอบการตกแต่งที่เน้นสีเข้ม ทึบ ดูหนักแน่นในสไตล์ผู้ชาย เริ่มด้วยการเลือกสีผนังเป็นสีเทา หรือสีเทาเข็มก็ได้ หลังจากเลือกสีผนังแล้ว ก็เลือกมุมใดมุมหนึ่งในบ้านแล้วหาโซฟาตัวแอลหนังสีน้ำตาลสักชุดนึง แล้วก็โต๊ะเล็กหน้าโซฟาสักตัว แจกันสวยๆเข้ากับชุดโซฟาสักใบ ทีวีและชุดโฮมเธียร์เตอร์อีกสักชุด เพียงเท่านี้ก็ดูสวยเท่ แล้ว

3.ห้องนั่งเล่น ตกแต่งภายใน โรแมนติก เป็น ห้องนอน สำหรับคู่รัก แบบบ้านชั้นเดียว หรือใครที่ชอบสีหวานๆ สร้างบรรยากาศโรแมนติก สักมุมหนึ่งในบ้าน พลาดไม่ได้กับไอเดียนี้เลย ด้วยการจัดไฟ ให้แตกต่างและชั้นวางของน่ารักๆ ผ้าม่านลายพริ้วๆ ตกกลางคืน แสงไฟที่เราประดับไว้ตามจุดต่างๆ ก็จะช่วยขับให้ห้องดูโรแมนติก
  
4.ห้องนั่งเล่น ออกแบบตกแต่งภายใน  สไตล์ลอฟท์ ห้องนั่งเล่นสไตล์ลอฟท์ เหมาะกับใครที่ชอบการแต่งบ้าน สไตล์ลอฟท์อย่างมาก เพราะบ้าน สไตล์ลอฟท์จะมีเพดานสูง ไม่มีสัดส่วนชัดเจน... ก็ไม่ต้องไปสน เพียงโซฟาตัวแอล 1 ชุด โซฟาเดี่ยวอีกคู่หนึ่ง พร้อมพรมสีน้ำตาลอ่อนปูตรงกลาง ทับด้วยโต๊ะเล็กที่ทำจากไม้กลม ตั้งทุกอย่างไว้กลางบ้านเลย เท่านี้ก็เจ๋งไปอีกแบบ 
5.ห้องนั่งเล่น ออกแบบตกแต่งภายใน  คัลเลอร์ฟูล ห้องนั่งเล่น แบบสุดท้าย ห้องนั่งเล่นรูปแบบนี้ จะเน้นไปที่ความสดใส มีชีวิตชีวา โดยการใช้สี และ ความโปร่งโล่งของห้องมาช่วย ห้องนั่งเล่นรูปแบบนี้จะใช้โซฟาสีขาวและโต๊ะเล็กไม้สีน้ำตาลอ่อน และผนังสีครีมซึ่งจะเห็นได้ว่าทั้งหมดเป็นสีพื้น แต่จะเติมสีสันด้วยพรมสีสดใส โซฟาและหมอนอิงสีแดง ภาพวาดรูปดอกไม้บนผนัง ประกอบกับหน้าต่างและประตูที่เปิดให้เห็นความสวยงามของธรรมชาติด้านนอก เรียกได้ว่าเป็น ห้องนั่งเล่นที่ สีสันจัดเต็มจริงๆ
     

รับสร้างบ้าน การเลือกบริษัท ที่มีมาตรฐาน

การคัดเลือกบริษัทรับสร้างบ้าน

      รับสร้างบ้าน การเลือกบริษัท ที่มีมาตรฐาน แนวทางการคัดเลือก บริษัทรับสร้างบ้าน ถ้าหากคิดจะมี บ้านสักหลัง แนวทางที่ง่ายและสะดวก คือการจ้างบริษัทรับสร้างบ้าน เขามาดำเนินการ ทั้งหมด เริ่มตั้งแต่ แบบบ้าน สร้างบ้าน และบริการรับประกันคุณภาพบ้าน หลังปลูกสร้างแล้วเสร็จ มีอะไรบ่างไปดูกัน

1. เป็น บริษัทรับสร้างบ้าน ที่มีความชำนาญและมีผลงาน ทีมี่คุณภาพ เพราะการปลูกบ้าน เป็นเรื่องใหญ่เราจะผิดพลาด ไม่ได้ ดังนั้นบริษัทที่เราเลือก จึงต้องมีความเชี่ยวชาญ ชำนาญงาน และต้องมีผลงาน ออกมาดีมีคุณภาพ ควรตรวจสอบจากผลงาน ที่สร้างเสร็จแล้ว เพื่อความแน่ใจในคุณภาพ และถ้าจะให้ดีไปกว่านี้ควรเลือกบริษัท ที่มีความชำนาญ รับสร้างบ้านในช่วงราคา ที่เรากำหนดไว้ เพราะเขาจะคุ้นเคย กับการสร้างบ้าน แบบบ้านสองชั้นที่ราคานี้เป็นพิเศษ  
2. เลือกบริษัท ที่มีการจดทะเบียน เป็นนิติบุคคล หากเป็นไปได้ ควรเลือกบริษัทรับสร้างบ้าน ที่มีการจดทะเบียน เป็นนิติบุคคล และมีวิศวกรหรือ สถาปนิกประจำอยู่ เพราะการก่อสร้าง ที่ดีจำเป็นต้องอาศัยบุคลากร มืออาชีพ เพื่อเราจะได้มั่นใจ ว่าเขาจะไม่ทิ้งงาน ไม่หนี เพราะ บริษัทมีตัวตนที่แท้จริง
3. มีราคา ที่เหมาะสม ถึงแม้ว่าการสร้างบ้าน จะมีราคาให้เลือกมากมาย แต่ควร เลือกในราคากลางๆไว้ เพราะหากราคาถูก มากเกินไป ก็อาจมีการใชวัสดุไม่ดี มี แบบบ้านสวยๆ มาตรฐานมาสร้างบ้านเราได้ หรือบางทีสูงเกินไป จนเกินเหตุก็จะเสียค่าใช้จ่ายโดยไม่จำเป็น  ดังนั้นเลือกที่ราคากลางดีที่สุด โดยเบียบเทียบ ขนาดตัวบ้าน วัสดุ และราคา จากหลายบริษัทรับสร้างบ้าน
4. บริษัท รับสร้างบ้านต้องมีการ ทำสัญญา ที่เป็นธรรมสัญญา ไม่เอื้อเข้าตัวบริษัทรับสร้างบ้าน ต้องมี แบบบ้านโมเดิร์น เช่นจ่ายสูง ๆ ในช่วงระยะแรก และเหลือจ่ายน้อย ในระยะหลัง แบบนี้อาจทำเกิดการทิ้งงาน ได้ ดังนั้นสัญญาที่ดี จึงต้องเกลี่ยให้เสมอตลอด โครงการ หรือจ่ายยอดสูงในช่วงท้าย แบบนี้เรามีแต่ได้ประโยชน์ ดังนั้นเราควรที่จะต้องรู้หลักเกณฑ์เหล่านี้อย่างละเอียดเพื่อปกป้องสิทธิประโยชน์ของตนเองในการจ้างบริษัทรับสร้างบ้าน  

ควรศึกษาข้อมูลก่อนจะมีบ้านทุกอย่างจะได้ประโยชน์อย่างสูงสุดกับเงินที่เสียไป

รับสร้างบ้าน การเลือกบริษัท ที่มีมาตรฐาน

รับสร้างบ้าน ที่มีมาตรฐาน

"รับสร้างบ้าน" การเลือก บริษัท ที่มีมาตรฐาน  มีความสำคัญ กับเจ้าของบ้านมาก เพื่อให้บ้าน ที่ออกมา มีคุณภาพ การก่อสร้าง จึงเป็นสิ่งสำคัญ อันดับแรก ซึ่งคุณภาพของการก่อสร้าง จะดีได้ ก็ต้องมีองค์ประกอบ ที่เกี่ยวข้อง อันได้แก่ การออกแบบ แบบบ้านโมเดิร์น การก่อสร้าง การควบคุม และตรวจสอบการก่อสร้าง และการเลือกใช้วัสดุ ในการก่อสร้าง   ก่อนตัดสินใจ เลือกบริษัทรับสร้างบ้าน เจ้าของบ้านจึงควรศึกษา รายละเอียด เพื่อที่จะได้งาน ที่มีคุณภาพคุ้มค่า กับเงินที่ต้องเสียไป หากยังไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นอย่างไร ก่อนเราจึงอยากเสนอ แนะแนวทาง ในการเลือกบริษัท รับสร้างบ้าน ไว้

 

1. บริษัท ต้องมีทีมงานมืออาชีพ ทีมงานเป็นส่วนสำคัญหลัก ของบริษัทรับสร้างคือ สถาปนิก และวิศวกร โดยบริษัทรับสร้างบ้าน ที่มีมาตรฐาน จะต้องมีสถาปนิก และวิศวกรประจำบริษัท สามารถออกแบบ ควบคุมการก่อสร้าง และให้คำปรึกษา แก่ลูกค้าได้ ตั้งแต่การออกแบบ แบบบ้านชั้นเดียวจนกระทั่ง การก่อสร้างแล้วเสร็จ ทีมงานสถาปนิกและ วิศวกร ต้องมีความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ซึ่งลูกค้าสามารถตรวจสอบรายละเอียดดังกล่าวได้ได้จากเวบไซต์ของบริษัท 
2. บริษัท ต้องติดตาม และนำเทคโนโยลีใหม่ๆ มาใช้เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด กับลูกค้า โดยจะเห็นได้ ว่าปัจจุบันบริษัทรับสร้างบ้าน ชั้นนำ บางบริษัท ได้นำเทคโนโลยี การก่อสร้าง ที่ประหยัดพลังงาน มาใช้ ซึ่งนอกจาก จะช่วยให้เจ้าของบ้านประหยัด ค่าใช่จ่ายเรื่องพลังงานไฟฟ้าแล้ว ยังมีส่วนช่วยลดภาวะ โลกร้อนอีกด้วย หรือการนำโครงสร้างสำเร็จรูปมาใช้ก็ยังมีส่วนช่วยประหยัดเวลาในการก่อสร้าง และลดการตัดต้นไม้ที่จะใช้ทำแบบสำหรับหล่อคอนกรีตได้อีกด้วย 
3.  บริษัทควรมี แบบบ้าน ให้ลูกค้าเลือกได้หลากหลาย เพื่อที่จะสนองความต้องการของลูกค้า และจากแบบที่มีหลากหลายเหล่านี้ ยังสามารถยืดหยุ่นดัดแปลงเพื่อสนองความต้องการของลูกค้า ได้อีกด้วย ซึ่งโดยทั่วไป บริษัทรับสร้างบ้านชั้นนำ จะมีแบบบ้านสวยๆ ให้เลือกไม่น้อยกว่า 100 แบบ 
4.  บริษัท ควรสามารถอำนวยความสะดวก ให้ลูกค้าได้มากที่สุด เช่น การมีสาขาของบริษัท ที่อยู่ใกล้กับสถานที่ ก่อสร้าง เพื่อให้สามารถตรวจสอบ  ควบคุมและตรวจสอบ คุณภาพของการก่อสร้าง ได้อย่างใกล้ชิด ตอบสนองความต้องการ ของลูกค้าได้ดีกว่า 
5.  การบริการก่อนและหลังการขาย ควรจะมาพิจารณา เพื่อประกอบการตัดสินใจ ในการเลือกบริษัท การบริการก่อนและหลังการขาย ลูกค้าสามารถ ตรวจสอบได้ว่าบริษัทใด ให้บริการก่อนและหลังการขาย ได้คุ้มค่ากว่า อำนวยความสะดวด ให้มากกว่า และมีการรับประกันผลงานอย่างไร มีการตรวจเยี่ยม หลังการขายอย่างไร มีแผนงานการบริการ ที่ชัดเจน เป็นรูปธรรม หรือไม่ เป็นต้นดังจะเห็นได้ว่า บริษัทรับสร้างบ้านที่มีมาตรฐานก็จะเป็นข้อมูลที่ช่วยในการตัดสินใจได้ง่ายขึ้น