แบบบ้าน2ชั้น
แบบบ้าน
ตกแต่งภายใน

การกำหนดพื้นที่ใช้สอย-ห้องทำงาน

การกำหนดพื้นที่ใช้สอย-ห้องทำงาน
กำหนดพื้นที่ใช้สอย-ห้องทำงาน
เป็นห้องที่ต้องคำนึงถึงแสงธรรมชาติ แบบบ้านชั้นเดียว ถ้าจะใช้งานในตอนกลางวันก็ให้ลงทิศเหนือ หรือตะวันออกเฉียงเหนือ แบบบ้านโมเดิร์น แต่ถ้าเป็น ตอนเย็นย่ำค่ำ สนธยา ก็โน่นเลยทิศตะวันออก หรือตะวันออกเฉียงใต้ แบบบ้านสวยๆ อย่าลืมหาตำแหน่งดี ๆ ให้ลมโชยแผ่ว ๆ พอคลายเครียดด้วย บ้านสวยบรรยากาศจะได้น่านั่งทำงาน





















การกำหนดพื้นที่ใช้สอย-ห้องน้ำ

การกำหนดพื้นที่ใช้สอย-ห้องน้ำ
การกำหนดพื้นที่ใช้สอย-ห้องน้ำ
แบบบ้านชั้นเดียว ห้องน้ำ เป็นห้องที่มี ความชื้นสูง ยังไม่คิดถึงว่าถ้าออกแบบ ไม่ดีจะมีปัญหาเรื่อง กลิ่นด้วย ตำแหน่งที่เหมาะสม แบบบ้านโมเดิร์น ควรจะไปลงที่ทิศใต้, ตะวันตก หรือ ตะวันตกเฉียงใต้ เพื่อจะได้ มีแสงสว่าง และกันความร้อน ให้ห้องอื่นที่สำคัญคือ แบบบ้านสวยๆ ห้องน้ำต้องมีการ ระบายอากาศ บ้านสวยดูทิศทางลมให้ดีด้วย














การกำหนดพื้นที่ใช้สอย-ห้องนอน

การกำหนดพื้นที่ใช้สอย-ห้องนอน
การกำหนดพื้นที่ใช้สอย ห้องนอน
ห้องนอน เป็นห้องที่สำคัญ ห้องหนึ่ง แบบบ้านชั้นเดียว จึงต้องพิถีพิถันในการ ออกแบบจัดวางหน่อยการระบายอากาศห้องนอนควรมีอย่างน้อย 2 ด้าน และวางหลบแดด ช่วงบ่ายด้วย แบบบ้านสวยๆ เพราะถ้าคุณวางไว้ ทิศที่รับแดดบ่ายมา ตลอด 4-5 ชั่วโมง แบบบ้านโมเดิร์น คืนนั้นคุณจะร้อนจนนอนไม่หลับทีเดียว ทิศที่เหมาะสมห้องนอน บ้านสวยคือ ทิศเหนือ, ตะวันออก,ตะวันออกเฉียงเหนือหรือเฉียงใต้










การกำหนดพื้นที่ใช้สอย-ห้องครัว

การกำหนดพื้นที่ใช้สอย-ห้องครัว
ห้องครัว
ห้องครัว แบบบ้านสวยๆเป็นห้องที่ สะสมความร้อน มากที่สุด จะอย่างไรก็ตามแต่ ห้องครัวนี้ต้องจัดลงทางปลายลมเท่านั้น เพื่อไม่ให้ลมพัดกลิ่น และความร้อน ไปยังห้องอื่น เช่น ทิศตะวันตก แบบบ้านโมเดิร์น หรือใต้เพื่อใช้เป็นห้องครัวที่กันความร้อนให้ห้องอื่นด้วย แบบบ้านชั้นเดียวและเพื่อรับความร้อนมาฆ่าเชื้อโรคด้วย… บ้านสวยสำหรับห้องครัวแต่สิ่งที่เน้นที่สุดก็คือ การระบายอากาศของห้อง











การกำหนดพื้นที่ใช้สอย-ห้องอาหาร

การกำหนดพื้นที่ใช้สอย-ห้องอาหาร
ห้องอาหาร
ห้องอาหาร เป็นห้องที่ใช้งานช่วงสั้น ๆ แบบบ้านชั้นเดียว ควรจัดวางไว้ที่ทิศตะวันออก, ตะวันออกเฉียงเหนือหรือเฉียงใต้ แบบบ้านโมเดิร์นแต่ถ้ามั่นใจว่าใช้ช่วงเช้าตรู่และหัวค่ำ ก็สามารถ ย้ายไปลงทิศใต้ หรือตะวันตกก็ได้เพราะตอนบ้านสวยแดดยังไม่ถึง ส่วนหัวค่ำแดดก็หมดแล้ว… แบบบ้านสวยๆอย่าลืมเล็งหาช่องลม เพื่อระบายความร้อนที่สะสม ในช่วงบ่ายด้วย ถ้าคุณคิดจะวางลงทิศตะวันตก
















พื้นที่ใช้สอย "ห้องรับแขก" หรือห้องนั่งเล่น

พื้นที่ใช้สอย ห้องรับแขก หรือห้องนั่งเล่น
พื้นที่ใช้สอย ห้องรับแขก หรือห้องนั่งเล่น เป็นห้องที่ต้องแบบบ้านชั้นเดียวโดยนึงถึงความสบายๆ ประโยช์ใช้งานมากๆในวันหยุด และใช้เกือบตลอดช่วงกลางวัน การออกแบบแบบบ้านโมเดิร์นตำแหน่งที่เหมาะสมในบ้าน จึงควรวางไว้ที่ทิศเหนือ, ตะวันออกหรือตะวันออกเฉียงเหนือจะดีที่สุด และถ้าได้ช่องลมด้วยรับรองว่าห้องนี้น่าแบบบ้านสวยๆ "นั่งเล่น" และน่า "รับแขก" เหมือนชื่อห้องแน่ ๆ















การกำหนด"พื้นที่ใช้สอย"

พื้นที่ใช้สอย
การกำหนด"พื้นที่ใช้สอย" ที่ว่างภายในบ้านและอาคารเป็นพื้นฐาน สำหรับ แบบบ้านชั้นเดียวการตกแต่งภายใน ส่วนใหญ่พื้นที่การใช้สอย ได้รับการกำหนด มาล่วงหน้าแล้ว ในขั้นตอนการก่อสร้าง ว่าจะมีกี่ห้องนอน กี่ห้องน้ำ กำหนดให้ห้องรับแขก อยู่ที่ไหน และใช้พื้นที่ใด้ เป็นห้องครัว หรือห้องรับประทานอาหาร แต่จะมีสักกี่ราย ที่สามารถใช้พื้นที่ใช้สอยตามความต้องการ และความจำเป็น ก่อนการปลูกสร้าง เพราะส่วนใหญ่ ในการซื้อแบบบ้านโมเดิร์นนั้น มักจะซื้อ บ้านจัดสรร ทาวน์เฮาส์ คอนโดมิเนียม ที่มีการจัดพื้นที่ใช้สอยไว้ล่วงหน้าแล้ว ถ้าท่านสามารถกำหนดไว้ได้ล่วงหน้าแล้วก็ตาม แต่ในขณะนั้นความต้องการ และความจำเป็นในการใช้พื้นที่ใช้สอยนั้น สำหรับคู่สามี-ภรรยาที่แต่งงานกันใหม่ ห้องนอนจึงใช้เพียงห้องเดียว พื้นที่ใช้สอยอื่น ก็ทำไว้สำหรับสองคนเท่านั้น แต่เมื่อครอบครัวขยายขึ้น ความต้องการพื้นที่ใช้สอยจึงเปลี่ยนไป การเปลี่ยนแปลงพื้นที่ใช้สอย แบบบ้านโมเดิร์นภายในบ้านนอกจาก จะเปลี่ยนตาม ความจำเป็น ของสภาพครอบครัวแล้ว สิ่งสำคัญเป็นอย่างมาก ที่จะเป็นตัวกำหนด ก็คือ " รสนิยม " ซึ่งเป็นตัวกำหนด หลักการของแบบบ้านสวยๆการตกแต่ง ให้ออกมารูปแบบต่าง ๆ เดิมอาจชอบเปิดโล่ง ที่มีพื้นที่ต่อเนื่องกันได้ทั้งบ้าน โดยไม่มีผนังมากั้นกลาง ภายหลังเพื่อ ความเป็นส่วนตัวมากขึ้น จึงต้องการมีห้องที่มีลักษณะปิดกั้นจากภายนอก หรือเดิมชอบบ้านแบบเรียบ ๆ มีของตกแต่งเท่าที่จำเป็น แต่กลับมาชอบการตกแต่งที่สมบูรณ์แบบ มีภาพแขวนบนผนัง มุมว่างจัดวางไว้ด้วยประติมากรรม หน้าต่างและประตูทุกบานติดม่านจับจีบ ซึ่งความต้องการเหล่านี้ อาจจะต้องทำให้มีการกั้นห้อง หรือรื้อผนังออกไป เพื่อความเหมาะสมของการตกแต่ง.
พื้นที่ใช้สอย
พื้นที่ใช้สอย ก่อนที่จะรื้นถอน หรือกั้นผนังเพื่อเป็นการปรับปรุงพื้นที่การใช้สอยนั้น ควรพิจารณาถึง วิธีการอย่างง่าย ๆ เสียก่อน ลองพยายามนึกถึงห้องต่าง ๆ ภายในบ้านอย่างสัมพันธ์เชื่อมโยงกัน บางทีเพียงแต่ท่านสลับห้องกันระหว่างห้องนอน และห้องนั่งเล่นก็อาจจะได้สิ่งที่ต้องการ โดยไม่ต้องสร้างขึ้นมาใหม่ ถ้าต้องการห้องรับแขกที่กว้างขวาง อาจจะเอาเฟอร์นิเจอร์ ที่เกินความจำเป็นออกไป หรือจัดกลุ่มเครื่องเรือนใหม่ ทำให้เกิดที่ว่างกว้างขวางกว่าเดิม อีกประการหนึ่งให้นึกถึง ความสัมพันธ์ ระหว่างธรรมชาติภายนอก กับการใช้สอยภายใน การที่จะใช้พื้นที่ไหนทำอะไร จะต้องคำนึงถึงแสงสว่าง ทิศทางลม ตัวอย่างเช่น แสงแดดในยามเช้านั้นดูน่าสบายในการรับประทานอาหารเช้า จึงควรจัดห้องรับประทานอาหาร ให้อยู่ด้านที่แสงแดด ส่องเข้าถึง ห้องพักผ่อนสำหรับครอบครัว ควรจะอยู่ในที่อากาศถ่ายเทได้ดี สามารถอยู่อาศัยได้ทั้งวัน จะต้องเป็นห้องที่ไม่ที่เสียง และฝุ่นละอองจากภายนอก แต่ถ้าหลีกเลี่ยงไม่ได้ อาจจะต้องใช้ฉาก หรือม่านกั้นหรือระบบปรับอากาศ ในกรณีที่คุณมีเงินมากพอ การปรับปรุงเปลี่ยนแปลงพื้นที่ใช้สอย ก็สามารถทำได้อย่างเต็มที่จะรื้อบางส่วนออก หรือสร้างผนังบางส่วน ขึ้นมาก็ย่อมเป็นไปได้ แต่ถ้าจะทำเช่นนั้นควรวางแผนและไตร่ตรองให้รอบคอบแล้วเท่านั้น เพราะเมื่อจัดการอย่างใดอย่างหนึ่งลงไปแล้ว ต้องมั่นใจว่า จะได้รับประโยชน์จากที่ว่างอย่างสูงสุด หรือผนังภายในบ้านแบ่งได้กว้าง ๆ ออกเป็นสองประเภท คือ ผนังรับน้ำหนัก และผนังที่ไม่ได้รับน้ำหนัก การรื้อผนังที่ไม่รับน้ำหนักสามารถรื้ออกได้ทันที แต่การรื้อผนังรับน้ำหนักที่ต้องรับน้ำหนักชั้นบนอยู่ จะต้องทำคานสำหรับรับน้ำหนักไว้แทน วิธีสังเกตง่าย ๆ ว่าผนังไหนรับน้ำหนัก คือ ถ้ามีผนังด้านบน ตรงกับผนังด้านล่าง แสดงว่าเป็นผนังรับน้ำหนัก..

พื้นที่ใช้สอยการเปลี่ยนแปลงสิ่งต่าง ๆ ภายในบ้าน อาจกระทบกระเทือนโครงสร้างบ้าน ฉะนั้นจึงต้อง อาศัยความรู้ความสามารถ จากผู้เชี่ยวชาญ เช่น สถาปนิก วิศวกร ซึ่งเขาเหล่านี้ สามารถดูแลความถูกต้องตามหลักวิชาการ และด้านกฎหมายอีกด้วย เพราะบางครั้ง การต่อเติม ที่ยื่นออกไปนอกบ้าน ไม่ว่าเป็นหลังคา ระเบียงบ้าน หรือ ต้องการต่อเติม ครัว หรือโรงรถใหม่ ก็ตาม ถ้าเป็นบ้านที่อยู่ในเขตเทศบาล ต้องเสนอ แบบแปลนขออณุญาต การปลูกสร้างจาก ทางราชการส่วนที่เกี่ยวข้อง ข้อกำหนดที่สำคัญใน การออกแบบพื้นที่ใช้สอย ก็คือ การทำให้เกิดความสมดุลกัน ระหว่างความต้องการที่ขัดแย้งกัน ของสมาชิกในครอบครัว อย่างเช่น มีบางคนต้องการ ความสงบ สำหรับการทำงาน หรืออ่านหนังสือ แต่ก็มีบางคนต้องการพักผ่อน โดยการฟังวิทยุ ดูโทรทัศน์ การจัดจะต้องแยกกิจกรรม ที่ขัดแย้งให้แยกออกจากกัน ไว้คนละห้อง ที่เก็บเสียงได้ ถ้ามีความจำเป็นต้องรวม ที่รับแขก โต๊ะอาหาร และครัวไว้ ในห้องเดียวกัน ก็ควรทำระบบระบายอากาศ ไว้ให้ถ่ายเทให้ดี และติดเครื่องดูดอากาศ ไว้ในครัว อีกสิ่งหนึ่งที่ต้องคำนึงถึง คือ ทางสัญจรภายในบ้าน จะต้องสะดวก ไม่วกวน ถ้าบ้านกว้างขวางอย่างเพียงพอ ก็ควรจัดให้ห้องนอน อยู่ห่างไกลหน้าบ้าน เพื่อความเป็นส่วนตัวมากยิ่งขึ้น

สภาพบ้านที่มีอยู่เดิม เป็นพื้นฐานของการปรับปรุงเปลี่ยนแปลง เราอาจจะใช้สิ่งที่มีอยู่แล้ว ให้เป็นประโยชน์ได้ การเปิดห้องสองห้องให้ติดต่อ กันอาจทำได้โดยรื้อผนังส่วนใดส่วนหนึ่งให้มีขนาดใหญ่ แต่ยังคงเหลือบางส่วนไว้ ทำให้ได้บรรยากาศที่แปลกใหม่ขึ้นมา และมองดูแล้วเกิดความลึกความตื้น เพราะผนังส่วนที่เหลือเป็นตัวกำหนด หรือบางห้องเพียงต้องการให้ได้ที่โล่งเพิ่มขึ้นก็อาจย้ายตู้เตี้ยกั้นห้องออกไป หรือแยกเก้าอี้รับแขกชุดใหญ่ออกไปเสียบ้างคงเหลือไว้เท่าที่จำเป็น และจัดวางชิดผนังจะทำให้ได้พื้นที่กว้างขวาง และดูเป็นทางการน้อยลง
การเปลี่ยนแปลงโดยการแบ่งห้องใหญ่ออกเป็นห้องเล็กๆนั้น ทำง่ายกว่าจะรวม ห้องสองห้องเป็นห้องเดียวกัน เพราะนอกจาก จะต้องคำนึงถึงว่า เป็นผนังที่รับน้ำหนัก หรือไม่ตามที่กล่าวแล้วยังต้องพิจารณาดูห้องทั้งสองว่ามีความกลมกลืนกัน หรือไม่ตั้งแต่พื้นผนัง และเพดานโดยดูจากลักษณะพื้นผิววัสดุที่ใช้ และสีสันถ้ากลมกลืนกัน ก็สามารถรื้อกำแพงออก และจัดตกแต่งเป็นห้องเดียวกันได้ แต่ถ้ามีความแตกต่างกันมาก ก็อาจจะทำได้อีกวิธีหนึ่งที่เสียค่าใช้จ่ายในการปรับน้อยลง คือเปิดช่องประตู ให้ติดต่อกัน และเปลี่ยนบรรยากาศให้พร้องต้องกันด้วยการทาสีใหม่เท่านั้น การแบ่งพื้นที่ที่สามารถตอบสนอง การใช้สอยได้หลายอย่างเช่น ในสำนักงานที่มีห้องโล่งขนาดใหญ่แต่มีลักษณะการทำงานที่แตกต่างออกไปบ้างเป็นสำนักงานที่ต้องทำงานอยู่กับโต๊ะเขียนหนังสือบ้างก็ทำงานเป็นสตูดิโอถ่ายภาพหรือจัดบางส่วนออกเป็นที่ชงกาแฟเตรียมอาหารก็สามารถกั้นโดยใช้มู่ลี่ติดจากเพดานจรดพื้นหรือเป็นม่านพับที่ออกจากด้านข้างเมื่อใดที่ต้องการใช้พื้นที่เป็นสัดส่วนก็ดึงม่านกั้นไว้แต่เมื่อใดที่ต้องการเนื้อที่กว้างในการจัดเลี้ยงก็สามารถเปิดม่านให้โล่งได้ตลอดได้
เมื่อมองไปรอบๆบ้าน แล้วสังเกตดูว่ามีพื้นที่ส่วนใดภายในบ้าน ที่ยังปล่อยทิ้งไว้ให้เปล่าประโยชน์ อย่างเช่นโถงใต้บันได หรือเฉลียงแคบๆ หรือเพดานสูงเกินไปเมื่อเทียบกับขนาดห้อง เราอาจใช้พื้นที่เหล่านี้ทำเป็นประโยชน์ได้..
ห้องที่เพดานสูงมาก อาจจะทำชั้นลอยไว้เก็บของ หรือเป็นบ้านสวยขนาดเล็กสำหรับแขก หรืออาจยกพื้นด้านล่างขึ้นมาแทนทำลิ้นชักสำหรับเก็บของ อยู่ใต้ยกพื้นเฉลียงแคบๆยาว อาจจะใช้พื้นที่ของผนังแขวนรูปภาพทำ ตู้ติดผนังที่ใช้พื้นที่น้อยสำหรับเก็บหนังสือ ซึ่งต้องอาศัยการออกแบบที่ดี เพื่อให้มีพื้นที่เหลือพอสำหรับเดินผ่านไปมา ได้สะดวกโถงใต้บันไดทำตู้ หรือชั้นเก็บของไว้บางรายอาจใช้ พื้นที่ตรงนี้เป็นที่วางเตียงพับ หรือโซฟาได้เพื่อเตรียมไว้สำหรับแขกที่มาพักค้างคืน
การใช้เฟอร์นิเจอร์ มีบทบาทสำคัญ ในการกำหนดคุณภาพ และลักษณะในการจัดตกแต่ง ในที่ว่างเฟอร์นิเจอร์ลอยตัวขนาดใหญ่จะนำมาตกแต่งได้อย่างสง่า และงดงามในห้องขนาดใหญ่แต่ถ้าเป็นห้องแคบๆ ตู้ติดผนังโต๊ะเก้าอี้พับได้ และโซฟาที่เป็นเตียงในตัวช่วยให้พื้นที่แคบใช้ประโยชน์ได้อย่างเต็มที่ การจัดวางเฟอร์นิเจอร์จะต้องคำนึงผลที่เกิดขึ้น เช่น การจัดวางชุดรับแขก4ชิ้นที่ประกอบด้วยโซฟายาว เก้าอี้นวมอีกสองตัว และโต๊ะกลางหนึ่งตัวซึ่งจัดได้ลงตัว และสวยงามในห้องที่กว้างขวาง แต่ถ้าห้องที่มีขนาดเล็ก ก็ควรใช้เฟอร์นิเจอร์สมัยใหม่ ที่ออกแบบไว้ด้วยเส้นลายที่อ่อนหวาน และมีขนาดเล็กลงเมื่อตกแต่งจะให้บรรยากาศที่โปร่งใสให้กับห้องเล็กๆได้มากกว่า และสามารถเคลื่อนย้ายได้ง่ายอีกด้วย
การจัดวางผังห้องนั้น ไม่ได้คำนึงแค่ความสวยงาม หรือการใช้งานเท่านั้น แต่สิ่งที่ต้องคำนึงถึงแต่หลายๆคนอาจจะลืมไป ก็คือการจัดวางห้องโดยการคำนึงถึง ทิศทางของแสง และลมเพราะปัจจัยนี้นี่แหละ ที่ช่วยให้คุณประหยัดค่าไฟฟ้าได้มากขึ้น
ห้องดวงอาทิตย์ มีช่วงเวลาที่จะโคจรอ้อมใต้ถึง 9 เดือน นั่นทำให้บ้าน จะรับความร้อนจัดจ้านมากทางทิศตะวันตก และทิศใต้ห้องที่ต้องการเลี่ยงความร้อนของแดด ในยามบ่ายจึงต้องอพยพให้ไปอยู่ฝั่งเหนือ หรือฝั่งตะวันออกซะให้หมด เพื่อที่คุณจะได้ไม่ต้องเปิดเครื่องปรับอากาศมากนัก
 ส่วนลมนั้น ประมาณเดือนพฤษภาคม-ตุลาคม ทิศที่ได้รับความเย็นโชยมามากที่สุดคือทิศใต้และตะวันตกเฉียงใต้ส่วนทิศเหนือหรือตะวันออกเฉียงเหนือจะฉ่ำชื่นด้วยลมโชยกันในเดือนธันวาคม-กุมภาพันธ์ นั่นเป็นทิศทางของลมทางทฤษฎีว่าไว้
แต่ในเมืองที่แออัดลมจะพัดไปทุกทิศทุกทางจึงควรหันมาเน้นการเปิดช่องลมทางทิศเหนือและใต้จะดีกว่า…แต่ต้องระวังอย่าให้มีการทับตำแหน่งกันเองย้ายเฟอร์นิเจอร์ หรือของตกแต่งบ้านออกจากช่องลมด้วยพอรู้ธรรมชาติ 2อย่างนี้แล้วก็ลองไปสำรวจดูว่าจะวางห้องไหนไว้อย่างไรบ้าง?